จันทร์เต็มดวงฉายเงาลงบนศาลาพักใต้ต้นจื่อฮวา
เสียงลมผ่านเงาไม้ แสงเงาสะท้อนบนโต๊ะไม้หยกที่ถูกทิ้งไว้อย่างเรียบง่าย
เจียงซินหลัวนั่งอยู่ลำพัง สายตาจับจ้องไปที่ม้วนจดหมายเก่า
เป็นจดหมายที่เพิ่งถูกส่งจากสายลับแคว้นเจี้ยนหรง
…ข้างในมีภาพร่างของ “แผนการลอบทำลายตำหนักหลวง”
และชื่อที่ถูกเขียนไว้ในบรรทัดล่างสุด…คือ “เซียนหลัน”
“ทำไม…ทุกอย่างถึงโยนมาที่นาง?”
“หรือว่าผู้ที่ส่งมา…เริ่มร้อนรนจนต้องเร่งบีบ?”
เจียงซินหลัวเม้มปาก
ภายในใจสับสน รู้ว่าถ้ายังปล่อยให้ “ข้อมูลจากต้นทาง” นำความคิด
นางก็ไม่มีวันรู้จักความจริงแท้เลย
⸻
คืนนั้น
นางแต่งกายด้วยชุดคลุมธรรมดา
เดินทางลัดผ่านทางลับในกำแพงวัง จนมาหยุดที่หน้าศาลากลางสระบัว — ตำหนักรองของรัชทายาท
ประตูศาลาเปิดอยู่
ด้านในมีเพียงแสงตะเกียงสลัว และเสียงคนกำลังดีดพิณเบา ๆ
เมื่อเจียงซินหลัวก้าวเข้าไป
เฟิงอวี้หานเงยหน้าขึ้นเล็กน้อย
“ข้าไม่คิดว่า…ทูตหญิงแห่งเจี้ยนหรงจะเสี่ยงมาหาข้ายามวิกาล”
“ข้ามาเพื่อฟังคำตอบ”
“ไม่ใช่ในฐานะสายลับ…แต่ในฐานะคนที่อยากแยกเงาออกจากความจริง”
⸻
เฟิงอวี้หานมองนางนิ่ง ๆ ก่อนเอ่ย
“ข้าเคยเชื่อว่า ความจริงคือสิ่งที่พิสูจน์ได้ด้วยตราประทับ”
“แต่เมื่อข้าเห็น ‘บางคน’ ถูกเผาโดยไม่มีใครรู้ว่าเธอร้องไห้หรือไม่…ข้าก็ไม่กล้าเชื่ออีก”
เจียงซินหลัวมองเขานิ่ง
ดวงตาที่เคยแข็งกร้าวเริ่มคลายลง
“ท่านหมายถึง…เซียนหลัน?”
เฟิงอวี้หานไม่ตอบตรง
เขาเพียงวางมือบนสายพิณ แล้วกดท่วงทำนองแผ่วเบา
“เจ้ารู้หรือไม่ ว่าเธอไม่เคยร้องขอความช่วยเหลือจากใคร…”
“แม้แต่ในวันที่ทุกคนพร้อมชี้ว่าเธอเป็นคนเผาศาลา”
⸻
เงาจันทร์เคลื่อนช้า ๆ บนพื้นศาลา
เสียงพิณหยุดลง พร้อมคำพูดที่เบากว่าเสียงลม
“และข้า…ก็เพิ่งรู้ตัวว่า ตั้งแต่เมื่อไรไม่รู้”
“ข้าจับตามองเธอไม่ใช่เพราะสงสัย แต่เพราะกลัว…ว่าจะพลาดอะไรบางอย่างไป”
⸻
เจียงซินหลัวนิ่งไป
หญิงสาวผู้แข็งแกร่งตลอดชีวิตไม่เคยรู้ว่าเสียงหัวใจเปลี่ยนแปลงได้เงียบเช่นนี้
“หากวันหนึ่ง…เจ้ารู้ว่าเธออาจตกอยู่ในกับดักที่เจ้ามีส่วนวาง ข้าหวังว่าเจ้าจะเลือก ‘หักไพ่ในมือ’ เพื่อปกป้องเธอมากกว่าชนะเกม”
⸻
คืนนั้น
เจียงซินหลัวกลับตำหนัก พร้อมสายตาที่ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป
ขณะเดียวกัน เซียนหลันในห้องของตน
ก็เปิดกล่องไม้เล็ก ๆ ที่ใต้เตียง…หยิบแหวนหยกชิ้นหนึ่งขึ้นมาดู
“แหวนของแม่…ถูกส่งคืนมาแบบเงียบ ๆ”
“มีเพียงคนเดียวเท่านั้นที่รู้ว่ามันเคยอยู่ที่มือใคร…”
มุมแหวนมีรอยบิ่นเล็กน้อย
แต่สำหรับเซียนหลัน — รอยบิ่นนั้นบอกเธอว่า “ยังมีคนไม่ยอมลืมอดีตของมารดา”
และนั่นคือเบาะแส…ที่นางจะใช้ขุดรากความจริงให้ถึงที่สุด