สายลมยามเช้าพัดเบา ๆ ผ่านช่องหน้าต่างบานเล็ก
ภายในห้องใต้ดินเก่าใกล้หอพระ สมุดบันทึกเล่มเก่าและกล่องไม้ขนาดพอมือถูกวางเรียงอยู่บนผ้าไหมซีดจาง
เซียนหลันนั่งลงอย่างเงียบเชียบ
นางรู้ว่าทุกวินาทีที่ผ่านไป…คือการแข่งกับคนที่ไม่เคยปรากฏตัวต่อหน้า
เพราะศัตรูตัวจริง ไม่จำเป็นต้องอยู่ในสนาม
หากแต่เฝ้าดูจากเงา และขยับมือเพียงเล็กน้อย โลกก็อาจเปลี่ยน
⸻
กล่องไม้สีน้ำตาลเข้มมีตรา “ฉินจื่อ” จาง ๆ บนฝา
คือกล่องของราชเลขาฝ่ายบัญชีที่ถูกถอดตำแหน่งไปพร้อมกับการล่มสลายของพระชายาอี้เฟย
นางเปิดฝากล่องด้วยปลายนิ้ว
ภายในมีเพียงแค่ “ม้วนบัญชีหนึ่งม้วน”, “เศษผ้าเก่า” และ “เหรียญหยกทรงกลมขนาดเท่าเหรียญกษาปณ์”
⸻
ม้วนบัญชีทำด้วยกระดาษฝาง อายุเกือบสิบปี
ข้อความส่วนใหญ่ซีดจนแทบอ่านไม่ออก
แต่มีบางตัวอักษรที่ถูกเขียนซ้อนทับใหม่ด้วยหมึกแดง
“สำนักจัดซื้อหลวง ปีหลี่ที่ 7”
“รายการ: ไข่มุกดำ, ทองคำเปลว, ผ้าทอลายเมฆ, หยกขาว — ส่งไปยังตำหนักกุ้ยเฟย”
เซียนหลันหลับตา
แม่ของนาง…ในขณะเดียวกันกลับถูกใส่ร้ายว่า “เบียดบังราชสมบัติ” ทั้งที่ไม่มีหลักฐานแม้แต่น้อย
แต่ตอนนี้ รายการเหล่านี้กลับมุ่งตรงไปยังอีกคนหนึ่ง
⸻
นางหยิบ “เศษผ้าเก่า” ขึ้นดู
ปรากฏลายปักเป็นรูป หงส์คู่มังกร อันเป็นตราส่วนพระองค์ของ “พระชายาอี้เฟย”
แต่กลับถูกลบด้วยหมึกสีดำและมีรอยตัดขวาง
“ราวกับมีคนพยายาม ‘ลบตัวตน’ ของแม่…ออกจากทุกอย่างที่เคยมี”
แต่คนที่ทำได้ขนาดนี้…
ต้องไม่ใช่แค่กุ้ยเฟย
ต้องมีคนใน “ระบบ” ที่ร่วมมือด้วย
⸻
เหรียญหยกในกล่อง…กลับเป็นสิ่งที่นางไม่ได้คาดไว้
มันเป็น “เหรียญเบิกคลังลับ” ของวังหลวง
เหรียญที่แม้แต่รัชทายาทยังต้องผ่านขั้นตอนยืนยันเพื่อใช้
แต่นี่…กลับอยู่ในกล่องของคนที่ถูกขับออกจากตำแหน่ง
“ถ้าเหรียญนี้เป็นของจริง…นั่นหมายถึงใครบางคนเคย ‘เบิกคลัง’ โดยไม่ผ่านราชโองการ”
⸻
นางจัดเก็บหลักฐานทั้งหมดไว้ในกล่องไม้เดิม
ปิดฝาแล้วเขียนด้วยหมึกใหม่ว่า
“กล่องนี้เป็นของพระชายาอี้เฟย ฝากไว้ที่เซียนหลันจนกว่าจะถึงวันพิธีเชื่อมพันธมิตร”
นั่นคือหมากที่นางวางไว้
ไม่ใช่เพื่อแฉในวันนี้
แต่เพื่อส่งสารถึงคนที่คิดว่านางไม่มีหลักฐานแล้ว
⸻
กลางวันวันเดียวกัน – ตำหนักรัชทายาท
เฟิงอวี้หานอ่านรายงานข่าวจากสายลับในราชสำนัก
“กล่องไม้ฉินจื่อปรากฏขึ้นที่หอพระ ใครบางคนปล่อยให้ขุนนางสายกลางได้เห็นม้วนบัญชี แต่ไม่ทั้งหมด”
เวินอี้เฉินถามขึ้น
“ท่านไม่กลัวว่าเซียนหลันจะเอาทั้งหมดไปแฉในการประชุมหรือ?”
เฟิงอวี้หานวางพัดไม้จันทน์ลง
“หากนางต้องการเปิดเผย…นางคงไม่ใช้เสี้ยวเดียวของความจริงเป็น ‘เหยื่อล่อ’”
“ข้ากลับคิดว่านางกำลังหา ‘ปลาที่ซ่อนตัวในเงา’ ให้โผล่ขึ้นมาเสียก่อน”
⸻
คืนนั้น
เจียงซินหลัวได้รับกลอนบทหนึ่ง
“จันทร์เสี้ยวคลี่เมฆา คืนฟ้าครึ้มปิดกล่องไม้
หยกกลมบังบัญชีเก่า เงาเก่ายังไม่ลบไป”
นางอ่านแล้วแย้มยิ้ม
นี่คือถ้อยคำจากเซียนหลัน
สั้น
แต่ชัดเจน —
“ข้ายังไม่เปิดไพ่ทั้งหมด แต่อยากรู้ว่าเจ้าจะลงไพ่ใบไหนก่อน”
เจียงซินหลัวตอบกลับด้วยภาพวาดหนึ่งภาพ
ภาพที่มี “เหรียญหยก” แบบเดียวกัน
แต่ทว่ามีรอยร้าวกลางวง
คือคำตอบในเชิงสัญลักษณ์
ว่า “ข้าเองก็ถือเหรียญนั้นไว้…แต่ไม่เคยใช้มันเต็มที่”
⸻
กลางดึก
ที่หอเงาของสำนักข่าวสารลับ
ชายในชุดคลุมดำกำลังรายงานต่อบุรุษผู้หนึ่งซึ่งใบหน้าอยู่ในเงามืด
“แผนที่ 3 เริ่มรั่วจากหอพระ บัญชีหลวงกระจายสู่มือขุนนางสายปฏิรูป”
เสียงต่ำแผ่วตอบกลับมา
“เร็วไป…เธอไวเกินที่เราคิด”
“เกมนี้ ข้าจะไม่ยอมให้นาง ‘ใช้ความเงียบ’ เป็นดาบต่ออีกแล้ว”
ชายผู้นั้นคือใคร ไม่มีใครรู้
แต่รอยแผลเก่าบนข้อมือ…เหมือนกับภาพในตำนาน
ผู้ที่เคยอยู่ในตำแหน่งสูงสุดของ “คลังลับในเงา”