Cherreads

Chapter 26 - ซ่อนมีดในรอยยิ้ม

ในวังหลัง หมากทุกตัวล้วนยิ้มก่อนแทง

ท้องฟ้ายามเช้ายังไม่ทันปลุกแสงสีทองให้สาดส่องทั่วท้องพระโรง เสียงกระซิบกระซาบก็เริ่มก้องในทางเดินหินอ่อนของตำหนักหลวง

“ได้ยินหรือไม่? องค์หญิงเซียนหลันแอบเข้าตำหนักขององค์ชายเมื่อสองยามที่ผ่านมา”

“เห็นว่าถูกพบอยู่ในเรือนหยกขาวที่หวงห้ามหญิงใดเข้า”

“ว่ากันว่านางนำขนมมงคลไปให้…”

กระซิบที่เริ่มจากเสียงหนึ่ง กลายเป็นสายฝนหนักที่ไหลไปทั่ววังในภายในครึ่งชั่วยาม

ไม่มีผู้ใดรู้ว่าผู้เริ่มปล่อยข่าวคือใคร แต่ผู้เดียวที่ยืนชมดอกเหมยในตำหนักหรู นัยน์ตาอ่อนโยนจนเกินจริง คือ ซูเมิ่งอวี่

“นางเลือกเดินเข้าหมอกเอง…”

ซูเมิ่งอวี่ยกพัดผ้าไหมลายหงส์บังมุมปาก สายตาเหม่อมองผีเสื้อที่โบกปีกข้ามดอกบ๊วยอย่างแผ่วเบา

“ข้าเพียงให้คนไปวางขนมในเรือนขององค์ชายโดยใช้ชื่อของนาง” เสียงนางเอ่ยกับนางกำนัลข้างกาย “หากมีใครพบ…ข้าก็แค่แสดงความห่วงใย”

นางหรี่ตาลงอย่างเยือกเย็น

“ผู้ที่ล้ำเส้นก่อน มักตกบ่วงด้วยมือของตนเอง”

ความเงียบของเซียนหลัน…ไม่เคยไร้เหตุผล

ภายในตำหนักเซียนเยี่ยน เซียนหลันกำลังนั่งเรียงสมุดบัญชีตำหนักเล็กจากรัชสมัยก่อน

ใบหน้านิ่งสนิท แต่ดวงตาคมลึกกว่าน้ำในทะเลสาบ

“เรื่องขนมในเรือนหยกขาว…พี่รองเชื่อไหมว่าเป็นข้าจริง?”

เสียงนั้นไม่มีทั้งอารมณ์ปะทะหรือโทษ แต่กลับทำให้ ซูเหยียน ที่ยืนเงียบอยู่ต้องเบือนหน้าหนี

ความรู้สึกคล้ายเข็มทิ่มในอก แม้เขาจะเป็นองค์ชาย…แต่ก็ไม่อาจปฏิเสธว่าในวัยเยาว์ นางคือผู้ที่เคยยืนปกป้องเขาในวันที่ถูกโบยผิดคน

เขาอึกอักเล็กน้อย ก่อนตอบเสียงแผ่ว

“ข้าไม่อาจตัดสินในสิ่งที่ยังไม่ปรากฏความจริง…แต่ข้าไม่อยากให้เรื่องนี้กลายเป็นดาบสองคมกับเจ้า”

เวินอี้เฉินกับจดหมายไร้ชื่อ

ยามเที่ยงวัน ขณะเซียนหลันนั่งอยู่ในสวนไผ่ กล่องหยกเล็กถูกส่งถึงนางโดยหญิงชรารับใช้ผู้หนึ่ง พร้อมจดหมายที่เขียนเพียงประโยคเดียวด้วยลายมือปลอม

“ตราประทับของวังหลัง มิได้อยู่ในมือผู้ที่ควรถือ”

นางนิ่งไปครู่หนึ่ง ก่อนเงยหน้ามองฟ้า

“เวินอี้เฉิน…” นางกระซิบเบา

เจียงซินหลัวที่เริ่มไหวหวั่น

ที่มุมตำหนักฉางซิน เจียงซินหลัวกำลังนั่งจิบน้ำชา

ข่าวลือถึงเซียนหลันซึ่งลอบเข้าหาองค์ชายแพร่ไปถึงหูนางเช่นกัน

แต่สิ่งที่สะกิดใจนางกลับไม่ใช่ตัวข่าว…แต่เป็น “สายตา” ของเซียนหลันที่นางเผลอจ้องตอบในคืนก่อน

แววตานั้นนิ่ง…ไม่มีทั้งพิษ ไม่มีทั้งอ้อนวอน

แต่กลับสื่อบางอย่างที่นางรู้สึกว่า “ผู้ถูกล่า” ไม่เคยมองกลับเช่นนี้มาก่อน

กลางลานตำหนัก — หมากที่ไม่ทันรู้ตัว

ยามบ่าย ตำหนักกลางจัดงานถวายผลไม้ศักดิ์สิทธิ์ประจำฤดู

องค์หญิงทุกพระองค์ได้รับเชิญร่วม

เมื่อเซียนหลันเดินเข้า ลานทั้งลานเงียบลงในชั่วขณะ

ไม่ใช่เพราะความสูงศักดิ์…แต่เพราะ เสียงลือ ล่วงหน้าของนาง

ซูเมิ่งอวี่เดินเข้ามาพร้อมรอยยิ้มแสนหวาน หยิบผลท้อสีชมพูงามวางบนถาดตรงหน้า

“ได้ยินว่าองค์หญิงเซียนหลันชื่นชอบของหวาน ข้าน้อยจึงนำผลท้อนี้มาถวาย”

ทุกสายตาหันมามอง ขณะนั้น พระมารดาเชื้อพระวงศ์องค์หนึ่งพูดขึ้นเสียงแผ่ว

“ได้ข่าวว่าองค์หญิงเพิ่งส่งขนมไปถึงตำหนักองค์ชายเมื่อคืนหรือ?”

คำตอบของเซียนหลันที่พลิกกระดาน

นางยิ้มบาง

ก่อนตอบเสียงนุ่ม แต่ชัดเจนจนผู้คนรอบลานได้ยิน

“ขนมมิได้สำคัญ หากผู้ส่งขาดมารยาท ส่วนข้าหากจะมอบใจ ย่อมไม่มอบผ่านของหวานที่ส่งในยามวิกาล”

คนในลานอึ้งไปในขณะนั้น

แม้ไม่กล่าวชื่อผู้ใด…แต่ทุกคนล้วนรู้ว่าใครคือผู้ถูกกล่าวถึง

นางไม่มีหลักฐาน…แต่หมากถูกวางไว้ให้หมู่ชนเป็นผู้ตัดสินแทน

หางม้าที่แทรกเข้าในสายลม

ภายหลังงานถวายผลไม้จบลง นางเดินกลับตำหนักช้า ๆ

เสียงฝีเท้าเบา ๆ ตามหลังมาเพียงครู่เดียว ก่อนชายเสื้อคลุมสีครามเข้มจะปรากฏเคียงข้าง

เฟิงอวี้หาน ไม่เอ่ยคำใด เพียงส่งซองจดหมายเล็ก ๆ ให้

“มีคนปลอมลายเซ็นเจ้าบนคำขอเบิกผ้าไหมจากหอคลัง…” เขาวางซองไว้ในมือเธอ

“ข้าให้คนตรวจพบร่องรอย…และรู้ว่าข้อมูลนี้อาจถึงหูคนที่เจ้าระแวง”

เซียนหลันรับไว้ นัยน์ตาไร้คลื่น

“เหตุใดจึงช่วยข้า?”

เฟิงอวี้หานนิ่งไปครู่หนึ่ง ก่อนเอ่ยเบา

“เพราะเจ้าต่างจากผู้หญิงที่ข้าเคยพบ…เจ้ารู้ว่าเมื่อไรควรเงียบ และเมื่อไรควรใช้คำพูดให้เจ็บกว่าน้ำแข็ง”

แล้วเขาหันหลังจากไป ทิ้งกลิ่นหอมอ่อนของจันทน์เทศในลมเย็น

More Chapters